[Think Different—Apple ] หนึ่งแคมเปญโฆษณาที่ดีที่สุดของโลก

[Think Different ]

หนึ่งแคมเปญโฆษณาที่ดีที่สุดของโลก

โดย Steve Jobs

เสียงพากษ์โดย Richard Dreyfuss

Think Different

Think Different เป็นหนึ่งใน แคมเปญ ของบริษัท Apple Inc.

ขณะนนั้นเป็นช่วงที่ Steve Jobs ของเรา ได้กลับเข้ามาบริหาร Apple

อีกครั้ง หลังตกอยู่ภายใต้สภาวะย่ำแย่

โดย Steve Jobs ต้องการจะวางตำแหน่งทางการตลาดให้ Apple เป็นแบรนด์สำหรับ

กลุ่มคนที่ Creative ซึ่งโฆษณาชุดนี้ ก็จะทำให้ Apple เริ่มต้นเป็นแบรนด์ที่อยู่ในใจผู้บริโภค

ตามเป้าหมาย คือ Creative เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

อิทธิพล จากโฆษณานี้ยาวนานมาถึงปัจจุบันนี้ครับ จะสังเกตุเห็นได้ว่า

งานประเภท Creative ต่างๆ หรือ บุคคลดังกล่าว มักจะให้เทคโนโลยีของ Apple

กันเป็นจำนวนมาก ๆ เลย ก็ว่าได้ :)

การนำเสนอ

ถ้าผมเองจำไม่ผิด >_< เคยอ่านเจอใน หนังสือ Steve Jobs

อัจฉริยะ พลิกโลก ซึ่ง Jobs ได้รับแรงบัลดาลใจในการทำ แคมเปญโฆษณาชุดนี้จาก
บริษัท Nike บริษัทผลิตรองเท้าอันดับโลก ที่ได้ออกสื่อโฆษณา

แบรนด์ Nike แต่ไม่ได้ !! นำเสนอ รองเท้า แต่อย่างใด? หากแต่ต้องการ

ขอบพระคุณ ลูกค้า ที่ไว้วางใจใช้บริการ และ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ....

เป็นการจุดประกาย Steve Jobs ทำให้เขาเองนั้น เกิดแคมเปญโฆษณา

Think Different ที่มีเนื้อหา เกี่ยวกับ การนำทัศนคติ "ติดต่าง"

ของบุคคสำคัญระดับโลก ในศตวรรษที่ 20 หลายๆ คน
โฆษณาเซ็ทนี้ จึงเป็นเรื่องราวของ Attitude ของ Brand ล้วนๆ โดยไม่มี

เรื่องของสินค้าใดๆ ทั้งสั้น โดยกลยุทธ์การสื่อสารของ Apple ตอนนั้นคือ
การออกโฆษณา Branding ไปก่อน แล้วจึงปล่อยให้โฆษณาตัวสินค้า
ที่เป็นคอมพิวเตอร์ รุ่นต่างๆ ของ Apple ตามออกมาทีหลัง

โดยเน้นบอกคุณลักษณะของสินค้าอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งจัดว่าเป็นงาน
Hard Sale ที่มากับ IDEA และ Life Style ตามแบบฉบับของ Steve Jobs

ถ้อยคำที่พูดในโฆษณา

ได้ฟังแล้วประทับใจมาก ๆ ครับ ทำให้มีกำลังใจมี มีพลังใจในการต่อสู้มากๆ เลย

โดยเฉพาะ ประโยคนี้......

คุณอาจจะเห็นพวกเขาเป็นคนบ้า

แต่เราเห็น…อัจฉริยะ

เพราะพวกเขาบ้าพอที่จะคิดว่าจะเปลี่ยนโลกได้

และเขาก็เปลี่ยนโลกได้จริงๆ

เอาละทีนี้มาดูคำแปลฉบับเต็มเลยดีกว่าครับ...

Here’s to the crazy ones. แด่คนบ้าเหล่านี้

The misfits. คนที่ไม่เข้าพวก

The rebels. ขบถ

The troublemakers. ตัวปัญหา

The round pegs in the square holes. เหมือนตะปูมน ที่ต้องตอกลงในรูเหลี่ยม

The ones who see things differently. คนที่มองโลกต่างออกไป

They’re not fond of rules. พวกเขาไม่ติดกับกฎเกณฑ์

And they have no respect for the status quo. และพวกเขาไม่สนใจสถานะที่เป็นอยู่

You can quote them, disagree with them คุณอาจจะพูดถึงเขา หรือไม่เห็นด้วยกับเขา

glorify or vilify them. จะยกย่องหรือประณามพวกเขาก็ได้

About the only thing you can’t do is ignore them. แต่สิ่งนึ่งที่ไม่อาจทำได้ คือ “มองข้าม” พวกเขาไป

Because they change things. เพราะพวกเขาได้เปลี่ยนโลก

They push the human race forward. พวกเขาทำให้มนุษย์ก้าวไปข้างหน้า

While some see them as the crazy ones,คุณอาจจะเห็นพวกเขาเป็นคนบ้า

we see genius. แต่เราเห็น…อัจฉริยะ

Because the people who are crazy enough to think เพราะพวกเขาบ้าพอที่จะคิดว่าจะเปลี่ยนโลกได้

they can change the world, are the ones who do. และเขาก็เปลี่ยนโลกได้จริงๆ

มีใครบ้างที่อยู่ในแคมเปญครั้งนี้
แน่นอนว่า หลายๆ คนที่เห็นในคลิปนั้น ล้วนแล้วแต่เป็น ต้นแบบของ Steve Jobs
เลยก็ว่าได้ ยกตัวอย่างเช่น Bob Dylan และ John Lennon ศิลปินชื่อดัง
ที่ถูกพูดถึงบ่อยๆ ในหนังสือของ Steve Jobs

โดยใจความสำคัญของโฆษณาชุดนี้ คงไม่ใช่แค่เพียง

การสื่อความหมาย ในทัศนคติ ที่แตกต่าง เท่านั้น แต่หากเป็นการ

ยกตัวอย่างเรื่องราว ของบุคคลที่สร้างความแตกต่าง ขึ้นจริงบนโลกใบนี้

เป็นบุคคลที่พิเศษ ที่หลายๆ คนมองว่าเขาบ้า แต่คนบ้าเหล่านี้แหละ ที่เปลี่ยนโลกของเรา

ไปดูกันเลยครับ ว่ามีใครบ้าง.....หรือมี HERO ในดวงใจเรารึเปล่า?