แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Peer to Peer Network คืออะไร แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Peer to Peer Network คืออะไร แสดงบทความทั้งหมด

P2P Network

P2P Network





P2P คืออะไร

P2P (peer to peer) คือการเชื่องต่อคอมพิวเตอร์ แบบระหว่าง ผู้ใช้กับผู้ใช้ ที่ได้แนวคิดมาจากระบบแชร์ไฟล์เพลงของโปรแกรม Napster ซึ่งจะแตกต่างจาก server-client เพราะการสื่อสารจะไม่ต้องอาศัยตัวกลางอย่าง server แต่จะสื่อสารกันผ่านโปรแกรมซึ่งจะจัดการเชื่องต่อให้ตามประสงค์ของการ ใช้งาน
แต่เดิมนั้นเมื่อเราต้องการดาว์โหลดไฟล์จากแม่ข่ายโดยใช้ FTP* HTTP* นั้น โดยสมมุติว่ามีคนที่ต้องการไฟล์เดียวกัน 500 คนมาดาวน์โหลดพร้อมกันบนแม่ข่ายเดียวพร้อมๆกันก็จะทำให้ Bandwidth เกิดการเปลืองทรัพยากร แล้วยังต้องใช้แม่ข่ายที่มีความเร็วเพิ่มขึ้นเพื่อทำให้ความเร็วในการประมวลผล เพิ่มขึ้นอีกด้วยจึงทำให้เกิดการพัฒนาระบบ P2P เพื่อใช้แลกเปลี่ยนไฟล์ระหว่างกันโดยไม่ต้องพึ่ง server อีกต่อไป

ข้อดี
ข้อดีของระบบ P2P คือ
การที่ระบบไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์หลัก ดังนั้นทำให้ไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซื้อเครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่มีราคาแพง
เมื่อมีผู้ใช้งานจำนวนมาก ระบบจะมีความเสถียรและเชื่อถือได้สูงกว่าการที่ผู้ใช้ต่อเข้าหาเซิร์ฟเวอร์ เพราะไม่มีปัญหาเรื่องเซิร์ฟเวอร์ล่ม

การใช้งาน
====================
Communication
- Instant Messaging (eg. MSN , ICQ, Cam frog etc) โดยการส่งข้อความในรูปแบบตัวอักษร ไฟล์ หรือวิดีโอ


File Sharing
- การแชร์ไฟล์ โดยผ่านโปรแกรม ต่างๆ เช่น Utorrent, Bittorent ฯลฯ

Processor Cycles
- การสร้างระบบเครือข่าย เช่น Grid computing คือการเอาทรัพยากรด้านการคำนวน หรือทรัพยากรประมวลผลข้อมูลด้านคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ เครื่องมือ อุปกรณ์ต่างๆมาทำการเชื่องโยงกัน ทำให้เกิดเครือข่ายขนาดใหญ่เพียงระบบเดียว



ประเภทของ P2P
====================
• Centralised P2P
คิดค้นโดย Napster โดยมีเซิร์ฟเวอร์หลักที่ค่อยเก็บ index และตำแหน่งของไฟล์ไว้ในระบบ แต่การส่งไฟล์ของระบบจะส่งระหว่างผู้ใช้โดยตรง ซึ่งยังมีปัญหาเรื่องเซิร์ฟเวอร์ล่มอยู่

• Pure P2P
เป็นการเชื่องต่อระหว่างผู้ใช้ โดยไม่มี เซิร์ฟเวอร์เก็บตำแหน่งของไฟล์แต่จะค้นหาไฟล์จากผู้ใช้โดยตรงทำให้เกิดการโหลด traffic overhead สูง (คือการทะลุหลายต่อ)

• Hybrid P2P
มีเครื่องกลุ่มหนึ่งที่ทำหน้าที่แทน เซิร์ฟเวอร์เรียกว่า Super peers ซึ่งจะคอยลดการสื่อสารเกินความจำเป็นระหว่างผู้ใช้ลงเพราะจะมีความสามารถข้ามผ่าน Super peers แทนที่จะผ่าน peers ปกติหลายๆต่อ

ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก : http://kroekpol.blogspot.com