แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ SEO แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ SEO แสดงบทความทั้งหมด

12 เรื่องพื้นฐานที่คน ทำ SEO จำเป็นต้องเรียนรู้

12 เรื่องพื้นฐานที่คน ทำ SEO จำเป็นต้องเรียนรู้

ในการทำ SEO นั้น จำเป็นต้องอาศัยความรู้ในหลายๆเรื่อง หลายคนมองว่าเป็นการยากมากที่จะทำอันดับเว็บไซต์ให้ติดหน้าแรกได้ใน Google บ่อยครั้งคนส่วนใหญ่ มักคิดว่าการทำ SEO ต้องอาศัยดวง หรือ อาศัยโชคช่วย ซึ่งการทำ SEO เองนั้น ก็ไม่มีสอนกันในสถาบันการศึกษาต่างๆ ไม่มีใบปริญญาหรือวุฒิบัตรที่จะบ่งบอก หรือการรับประกันใดๆ หากแต่ความรู้ในด้านการทำ SEO เกิดจากประสบการณ์ เกิดจากความสามารถ เกิดจากการลองผิดลองถูก ของตัวผู้ทำ SEO เอง … แต่ความรู้อะไรบ้าง ที่จำเป็นต้องรู้ ? โดยเฉพาะอย่างยิ่ง SEO สำหรับในปัจจุบัน
วันนี้ผมจะขอแนะนำเรื่องของความรู้พื้นฐาน ที่ผมคิดว่าคนต้องการ ทำ SEO หรือผู้ รับทำ SEO ควรจะต้องรู้

12 เรื่องพื้นฐานที่คน ทำ SEO จำเป็นต้องเรียนรู้

1. On-Page SEO

สิ่งนี้เป็นพื้นฐานที่สุด ที่จำเป็นต้องรู้ สำหรับการทำ SEO
• เนื้อหาในเพจ (Page Content)
• ชื่อของเพจ (Title Tag)
• ลิงค์ URLs
• H1 H2
การปรับแต่ง On-Page SEO ถือเป็นความรู้พื้นฐานของผู้ที่ต้องการทำ SEO เราจำเป็นต้องมีความเข้าใจในส่วนนี้

2. Links

ในการทำ SEO คุณจำเป็นต้องเข้าใจ เกี่ยวกับ Links ต่างๆ ในเว็บไซต์ เพราะ Link เปรียบเสมือนประตู ที่จะเชื่อมต่อ ทั้งในส่วนของภายในตัวเว็บเองและจากภายนอกมาสู่เว็บ คุณต้องเข้าใจอะไรคือ ลิงค์คุณภาพ อะไรคือ สแปมลิงค์

3. Keyword Research

การวิเคราะห์ Keyword เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จำเป็น คุณไม่จำเป็นต้องเชี่ยวชาญในการใช้เครื่องมือ สำหรับวิเคราะห์ Keyword แต่คุณต้องรู้พื้นฐานในการใช้มัน คุณจำเป็นต้องรู้ว่า
• Keyword อะไรดีที่สุดสำหรับเว็บไซต์ของคุณ
• Keyword อะไรที่คน ส่วนใหญ่มักจะนิยมใช้ในการค้นหาที่ตรงกับข้อมูลในเว็บของคุณ

4. Linking

การวางลิงค์ หรือ การสร้างลิงค์ เพื่อเชื่อมโยงระหว่างเว็บ และภายในเว็บ เป็นแทคติกสำคัญในการทำ SEO มาตั้งแต่อดีต แต่ในปัจจุบัน จากการพัฒนาของ Google ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในเรื่องของการสร้างลิงค์ ซึ่งแน่นอนว่า มันยังคงมีความสำคัญอยู่ เพราะการสร้างลิงค์เป็นเสมือนการสร้างประตูทางเข้า ซึ่งมันจะส่งผลดีอย่างมากต่อการทำ SEO แต่ในขณะเดียวกัน ก็อาจจะส่งผลเสีย จนเกิดโทษได้ หากคุณไม่รู้จักสร้างลิงค์และวางลิงค์ ในที่ๆควรวาง หรือ การสร้างลิงค์ที่เป็นธรรมชาติ (Natural Link Building)

5. Local SEO

สำหรับกลุ่มธุรกิจ การทำ Local SEO เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะจะเป็นการโฟกัสตามสถานที่ ซึ่งจะทำให้ผลของการค้นหา แตกต่างออกไป เช่นมีการแสดงแผนที่ เป็นต้น (โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ Smartphone) ซึ่งมีประโยชน์มากต่อการทำ SEO สำหรับธุรกิจหรือแบรนด์ต่างๆ คุณควรจะเรียนรู้เอาไว้ ไม่ว่าจะเป็น Google Places for Business , Google+ Local

6. Mobile SEO

ปัจจุบันการใช้งานมือถือเพิ่มมากขึ้นจนแซงหน้า Desktop ไปแล้ว แม้ในความเป็นจริง การค้นหาในข้อมูลบน Smartphone และ Desktop จะเป็น Index เดียวกัน แต่ การทำ SEO สำหรับมือถือ ก็เป็นสิ่งที่อย่างน้อยก็ควรจะเรียนรู้ทำความเข้าใจไว้ เช่นเรื่องของ Responsive Design , Mobile URLs , Redirect Mapping เ ป็นต้น เพื่อให้มีความเป็นมิตรต่อผู้ใช้งานบนมือถือ (User Friendly)

7. PPC / Adwords

การทำ SEO (Organic Search) และการทำ Adwords (Paid Search) เป็นส่วนหนึ่งของ SEM (Search Engine Marketing) นั่นคือ การทำให้เว็บติดอันดับหน้าแรกๆใน Google แม้ว่าเราจะทำ SEO เพราะไม่ต้องการเสียเงินลงโฆษณากับ Adwords แต่อย่างน้อยคุณควรจะทำความรู้จักกับมัน อาจจะไม่ต้องไปเข้าใจว่าการปรับ Campaigns โฆษณาทำอย่างไร แต่ต้องรู้ว่าในหน้าแรกๆของ Google จะแสดงเว็บไซต์ที่ลงโฆษณาอยู่ด้วย หรืออีกอย่างคือ Google Keyword Planner ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการช่วยวิเคราะห์ Keyword  ที่เป็นส่วนหนึ่งของ Google Adwords แต่เปิดให้ใช้ได้ฟรี โดยเครื่องมือนี้คุณควรจะเรียนรู้และฝึกใช้งานมันให้ได้อย่างคล่องแคล่ว

8. Conversion Optimization

การทำ SEO จุดประสงค์เพื่อให้เกิด Traffic (จำนวนคน) เข้ามาที่เว็บ 
การทำ CRO จุดประสงค์เพื่อเปลี่ยน Traffic ให้กลายเป็นลูกค้าซื้อสินค้า (หรือทำธุรกรรมกับเรา)
ดังนั้น SEO และ CRO (Conversion Rate Optimization) จึงเป็นปัจจัยที่เมื่อผสมผสานกันแล้วจะทำให้เกิดความสำเร็จที่แท้จริง  ในฐานะคนทำ SEO จึงควรจะศึกษาและทำความเข้าใจในพื้นฐานของการสร้าง Conversion เอาไว้ด้วย เช่นLanding Pages , A/B Testing , Call to Action เป็นต้น

9. Algorithms

อัลกอริทึม คือชุดคำสั่งที่จะบอกว่า ผลของการจัดอันดับเป็นอย่างไรใน SERPs (Search Engine Result Pages) สำหรับ Google จะมีการเปลี่ยนแปลงอัพเดท  Algorithm ของตัวเองอยู่เรื่อยๆ ดังนั้นการทำความรู้จักและ ติดตามข้อมูลข่าวสารการอัพเดทของ Google Algorithms จะช่วยทำให้เราสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำ SEO ของเราได้ (อะไรที่เราควรทำ อะไรที่เราไม่ควรทำ ก็อาศัยการเข้าใจในส่วนนี้) เราไม่จำเป็นต้องไปเรียนรู้หรือเข้าใจมันทั้งหมด เอาเฉพาะตัวสำคัญๆก็พอ ดูประวัติการอัพเดทของ  ► Google Algorithm History

10. Marketing

ผมเองไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นนักการตลาด และไม่เคยเรียนหรือศึกษาจบมาทางด้านนี้มาก่อน แต่มาวันหนึ่ง หลังจากที่ผมตอบเมล์ลูกค้า โดยเสนอแนะบอกแนวทางที่จะช่วยทำ SEO ให้กับเว็บของเขา ลูกค้าได้ตอบเมล์ ถามกลับมาว่า
… คุณจบการตลาดมาหรอ ? …
คุณอาจจะไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นนักการตลาด แต่ขอให้รู้ไว้ว่า การทำ SEO เป็นส่วนหนึ่งของการตลาด !! เพราะการกระทำที่เกี่ยวกับการโปรโมทเพื่อขายสินค้าหรือบริการ นั่นนับว่าเป็นการตลาด และ SEO ก็คือวิธีการโปรโมทช่องทางหนึ่ง  .. หากคุณต้องการจะประสบความสำเร็จในการทำ SEO การทำความเข้าใจพื้นฐานของการตลาด (ไม่ว่าจะเป็นการตลาดออนไลน์ หรือ วิชาการตลาดขั้นสูง) เป็นสิ่งจำเป็น ที่จะช่วยยกระดับให้กับตัวคุณได้

11. Content Marketing

เมื่อกล่าวถึงการตลาด ขอเจาะลึงลงไปอีกหน่อย นั่นคือ “การทำตลาดโดยใช้เนื้อหา” หรือ Content Marketing ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ถือเป็นปัจจัยชี้วัดที่จะทำให้เกิดความสำเร็จ บนโลกของ Online Marketing … ในส่วนของธุรกิจจำเป็นที่จะต้อง สร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ (High Quality Content) เพื่อเป็นการทำให้ผู้คนจดจำเราได้ โดยเนื้อหา อาจจะอยู่ในรูปแบบของ วีดีโอ บทความ รูปภาพ Infographics Slideshare ต่างๆ
ในฐานะของคนทำ SEO เราจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องรู้จักกับ Content Marketing เพราะในปัจจุบัน การเปลี่ยนแปลงของGoogle ที่มุ่งเน้นไปจัดอันดับกับเว็บไซต์หรือลิงค์ ที่มีเนื้อหาคุณภาพ ลิงค์ที่มีเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ ลิงค์ที่มีคนเข้าดูเยอะๆ ดังนั้นการใช้กลยุทธ์ Content Marketing Strategy จึงเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่จะช่วยให้การทำ SEO ในยุคนี้ ประสบกับความสำเร็จได้

12. Social Media

การใช้งาน Social Media ไม่ว่าจะเป็น Facebook , Twitter , Google+ , Youtube ฯลฯ เป็นพื้นฐานสำคัญที่คนทำ SEO ควรรู้ เพราะ การใช้ Social Media เป็นช่องทางสำคัญในการโปรโมทเว็บ โปรโมทลิงค์ เพื่อเพิ่ม Traffic ให้กับเว็บของเรา ในปัจจุบันนี้ Social Media มีอิทธิพลมากขึ้นทุกวัน ดังนั้น
การเรียนรู้การทำ Social Media Optimization (SMO) 
ควบคู่ไปกับ การทำ Search Engine Optimization (SEO) 
เปรียบเสมือนกับการที่คุณได้ใส่รองเท้า (ข้างหนึ่ง SEO อีกข้างหนึ่ง SMO) 
ที่จะช่วยให้คุณพร้อมออกวิ่งไปบนโลกของ Online Marketing ในยุคปัจจุบัน

บทสรุป

12 เรื่องที่กล่าวมาข้างต้นเป็นองค์ความรู้ที่จำเป็นสำหรับการทำ SEO แต่ เราไม่จำเป็นต้องรู้ลึกรู้ละเอียดในทุกๆเรื่องเพราะถ้า การทำ SEO ให้ประสบความสำเร็จจำเป็นต้องเชี่ยวชาญในทุกเรื่องทั้งหมดที่ได้กล่าวมานั้น ผมว่าคงจะหาคนทำ SEO ไม่ได้แน่ๆ (หรือหายากดังงมเข็มในมหาสมุทร) …
เมื่อคุณรู้ในเรื่องที่จำเป็นแล้ว หากคุณหมั่นศึกษาค้นคว้า หาความรู้ และทำความเข้าใจเพิ่มเติมในเรื่องที่ผมกล่าวมา หาเทคนิคและกลยุทธ์ต่างๆในแต่ละเรื่อง แล้วนำมาผสมผสานประยุกต์ใช้ ทดลองลงมือปฎิบัติด้วยตัวเอง การทำ SEO ก็ไม่น่าจะยากเกินความสามารถและความตั้งใจของคุณ
นอกเหนือจากที่กล่าวมา คุณคิดว่า มีเรื่องสำคัญอะไรอีกบ้างที่ คนทำ SEO จำเป็นต้องเรียนรู้ ?
ขอบคุณบทความจาก : คุณ JoJho คนทำเว็บนอกคอก

Google Webmaster Tool & XML-Sitemap [SEO]

Google Webmaster Tool & XML-Sitemap..

ในบทความนี้จะเป็นการแนะนำเกียวกับการทำ SEO โดยการเพิ่ม Website และ Sitemap ให้กับเว็บไซต์ของเีรา

เริ่มต้นจะทำการ เพิ่ม Website โดยใช้  Google Webmaster Tools เพื่อเป็นตัวจัดการ เมื่อเข้ามาหน้าแรกจะแสดงหน้าจอ ดังนี้












จากนั้นใ้ห้กดที่ปุ่ม "ADD A SITE"  จะแสดง Dialog ขึ้นมาให้เรากรอก URL ดังรูป














เมื่อใส่ URL แล้วกด "Continue" ระบบจะ Redirect ไปที่หน้า Verify Account เพื่อให้เรายืนยันกับทาง Google ว่าเราเป็นเจ้าของเว็บไซต์ตัวจริงหรือไม่ ดังรูป



























การ Verify สามารถทำได้หลายวิธี เช่น
- HTML file upload หมายถึง Verify ผ่านการ Upload HTML
- HTML tag หมายถึง Verify ผ่านการใส่ Mata Tag
- Domain name provider หมายถึง Verify ผ่านผู้ให้บริการจดโดเมน เช่น GoDaddy.com , domainmonster.com
- Google Analytics หมายถึง Verify ผ่าน Google Analytics ID
- Google Tag Manager หมายถึง ยืนยันผ่าน Google Tag Manage ID

วิธีที่ง่ายและนิยมที่สุด คือ HTML file upload ในตัวอย่างนี้เราจะทำการ Verify ด้วยวิธีนี้กันนะครับ
1.วิธีทำคือให้ดาวน์โหลด HTML verification file จากข้อ 1
2.Upload ไปยังเว็บไซต์ของเรา
3.ลองกดที่ URL ข้อ 3 ถ้าลิงค์สามารถใช้งานได้ แสดงว่า Upload ไฟล์เรียบร้ิอย











4. กดปุ่ม Verify ก็จะเสร็จการเพิ่มไซต์ให้กับ Webmaster Tools












จากนั้นเมื่อกดลิงค์ Continue จะ Redirect ไปที่หน้า Dashboard สำหรับจัดการไซต์ที่สร้าง


















ขั้นตอนต่อไปที่ต้องทำคือการเพิ่ม Sitemap ให้กับเว็บไซต์ของเรา โดยให้กดที่ Tab Sitemaps จะแสดงหน้าจอ ดังนี้























เริ่มแรกต้องไปสร้าง xml-sitemap ก่อน เพื่อที่จะ Upload ไปยัง Webmaster Tools สามารถสร้างได้โดยเข้าไปที่ http://www.xml-sitemaps.com/ โดยมีหน้าจอ ดังนี้


























ให้ใส่ URL แล้วกด Start เพื่อเริ่มสร้าง xml-sitemap ดัวรูป


















เมื่อเสร็จแล้วให้ดาวน์โหลด sitemap โดยเลือกแบบ un-compressed XML Sitemap แล้ว Upload ลงเว็บไซต์ โดยให้ใส่ไว้ที่ Root  ดังรูป


























จากนั้นกลับมาที่หน้า Sitemap ที่ Webmaster Tools ให้กดปุ่ม "ADD/TEST SITEMAP"  จะแสดง Dialog ให้ใส่ชื่อ Sitemap ที่ Upload ลงเว็บไซต์ จากนั้นกดปุ่ม "Submit Sitemap" ดังรูป














เท่านี้ก็เสร็จกระบวนการทำ Sitemap เรียบร้อยครับ

ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก : http://joycerookie.blogspot.com/2013/08/seo.html